การใช้ผ้าม่านควบคุมแสง ..การควบคุมแสงโดยผ้าม่าน จุดประสงค์ก็คือ
1. จะเข้ากับบรรยากาศห้องของท่านหรือไม่ โดยเลือกแบบผ้าม่าน ม่านจีบ ม่านพับ ซึ่งม่านแต่ละแบบสามารถเลือกเปิดปิดรับแสงได้ต่างกัน
2. สิ่งที่จะบอกได้คือความเป็นส่วนตัวของห้อง โดยเลือกจากเนื้อผ้า ผ้าหนาดูมิดชิด ผ้าบางมองเห็นบ้าง
3. ปริมาณแสงที่เพียงพอกับความต้องการ โดยเลือกจากเนื้อผ้า ผ้าทึบแสงดูมืด กันแสงแดด บ้านสว่างน้อย ผ้าเนื้อโปร่งหรือเนื้อบาง กันแสงแดดได้ แต่บ้านจะดูสว่าง
ผ้าม่าน หรือ ม่านปรับแสง ดีนะ!!
เรื่องของม่านในบ้านพักอาศัย ถ้าว่ากันด้วยเหตุผลแล้ว การนำม่านมาใช้นั้นมีเหตุผลอยู่สามประการสำคัญ ๆ คือ ประการแรก ใช้ม่านเพื่อต้องการความเป็นสัดส่วน ช่วยบดบังสายตาจากภายนอกไม่ให้มองเห็นภายใน ใช้ม่านเพื่อป้องกันแสงสว่างและแสงแดดจากภายนอก และประการสุดท้าย คือ การใช้ม่านเพื่อการตกแต่งเดิมทีนั้นวัสดุที่นิยมใช้ทำม่านก็มีแต่เฉพาะผ้า แต่มาทุกวันนี้มีวัสดุและม่านแบบใหม่ ๆ ให้เลือกใช้เพิ่มเข้ามา คือม่านปรับแสงทำด้วยแผ่นอะลูมิเนียมบาง ๆ วางเรียงซ้อนกันบานเกล็ดเล็ก ๆ ให้เลือกใช้เป็นที่บังสายตา บังแดด และตกแต่ง ระหว่างผ้าม่านและม่านปรับแสง ซึ่งก่อนการตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็จำเป็นอยู่ที่ต้องมาพิจารณากันถึงประโยชน์ใช้สอย และข้อดี ข้อเสียม่านทั้งสองชนิดนี้กันก่อน
๐ ข้อดี
1. มีแบบม่านให้เลือกใช้กับงานตกแต่งมากมาย ตั้งแต่งานตกแต่งในรูปแบบคลาสลิกจนถึงงานตกแต่งแบบสมัยใหม่ ที่อาจใช้ผ้าสีสันต่าง ๆ มาสลับใช้
2. สามารถเลือกลักษณะม่านตามลักษณะการเปิดปิดได้ คือ เปิดปิดผ้าม่านโดยดึงผ้าม่านให้เลื่อนเข้หากันแบบธรรมดาทั่วไป และการเปิดปิดผ้าม่านแบบดึงผ้าให้ม้วนขึ้นหรือซ้อนทับกันในแนวตั้งจากด้านล่างขึ้นด้านบน จากลักษณะต่าง ๆ นี้จึงทำให้ผ้าม่านมีความหลากหลายในการเลือกนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเลื่อนขึ้นลงหรือเลื่อนปิดธรรมดา อีกทั้งเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวหรือกันแดดก็สามารถใช้ผ้าเนื้อหนา หรืออีกกรณีหนึ่งถ้าต้องการแสงสว่างตามธรรมชาติบ้างก็อาจเลือกใช้ผ้าโปร่งเป็นผ้าม่านได้ ซึ่งโดยปกติทั่วไปผ้าม่านจะมีอยู่ด้วยกันสามชั้น ชั้นในสุดจะเป็นผ้าโปร่ง ชั้นที่สองจะเป็นผ้าม่านเนื้อหนา และชั้นนอกสุดจะเป็นผ้าม่านเพื่อการตกแต่งโดยเฉพาะ จับเป็นจีบบ้าง ใส่พู่ระย้าบ้าง ฯลฯ ของผ้าม่าน ถ้าเว้นเรื่องของการจับฝุ่นละอองและการทำความสะอาดที่ยุ่งยากแล้วก็จะอยู่ที่ประโยชน์ใช้สอย จะกางเป็นผืนใหญ่ติดกันตลอด ดังนั้นผ้าม่านจะกันแดดได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อชักม่านปิดช่องเปิดนั้นทั้งหมด และถ้าม่านที่ใช้เป็นผ้าม่านเนื้อหนาก็จะบดบังทัศนียภาพด้านนอก หรือถ้าเลือกใช้ผ้าม่านเนื้อบางประเภทผ้าโปร่งก็จะใช้ประโยชน์ได้แต่เพียงกรองแสงสว่างหรือแสงแดดให้เข้ามาน้อยลงเท่านั้น เรียกว่าถ้าจะเลือกใช้ผ้าม่านเพื่อกันแดดก็จะต้องเสียมุมมองทัศนียภาพภายนอกไป
๐ ข้อดี
1. สามารถลดทอดนความจัดจ้าของแสงแดดที่จะเข้ามาภายในอาคารได้ พร้อมกับทำหน้าที่เป็นฉากกั้นสายตาไปในตัวโดยไม่ทำให้ภายในมองไม่เห็นภายนอก นอกจากจะปรับมุมองศาของแผ่นอะลูมิเนียมให้ปิดซ้อนทับกันสนิท
2. ม่านปรับแสงเป็นม่านที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันแสงแดด ดังนั้นจึงมีการใช้งาน่ของแผ่นม่านสองลักษณะด้วยกัน คือม่านปรับแสงแบบแผ่นอะลูมิเนียมวางตามแนวนอน และแบบแผ่นอะลูมิเนียมตามแนวตั้ง ความแตกต่างของการเลือกใช้งานจะอยู่ที่ใบม่านตามแนวนอน เหมาะจะใช้บังแดดทางด้านทิศใต้เพราะแสงแดดทางทิศนี้จะเอียงทำมุมกับตัวอาคาร ดังนั้นการเลือกใช้ใบม่านแนวนอนจะช่วยป้องกันแสงแดดได้ดี เช่นเดียวกับการยื่นชายคาหรือระเบียงกั้นแดดให้กับอาคารทางด้านทิศใต้ สำหรับม่านปรับแสงทางด้านตั้งใบม่านแบบนี้จะมีวัสดุเป็นอะลูมิเนียมและแผ่นใยสังเคราะห์ให้เลือกใช้ ม่านปรับแสงที่มีแผ่นทางตั้งนี้เหมาะจะใช้กันแดดทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศทางที่แสงแดดจะส่องเข้ามาตรง ๆ ดังนั้นการจัดให้ใบม่านพลิกเอียงไปมาได้ตามแนวดิ่งจะทำให้สามารถป้องกันแดดทางด้านนี้ได้ดีกว่าการเลือกใช้ใบม่านตามแนวนอน
๐ ข้อด้อย
ข้อด้อยของม่านปรับแสงจะอยู่ที่ข้อจำกัดของการใช้งาน เพราะม่านแบบนี้เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานตกแต่งแบบสมัยใหม่มากกว่าจะนำไปใช้กับงานตกแต่งรูปแบบอื่น ๆ อีกทั้งม่านแบบนี้ยังมีผิวสัมผัสที่แข็งกระด้าง ไม่ดูนุ่มนวลอบอุ่นเหมือนผ้าม่าน จึงไม่ค่อยมีผู้นิยมนำมาใช้กับบ้านพักอาศัย หากกลับไปนิยมใช้ในอาคารสำนักงาน เพราะสามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่ายกว่าผ้าม่าน จึงเป็นผลทำให้เกิดความรู้สึกตามมาว่าการเลือกใช้ม่านปรับแสงในบ้านพักอาศัย บรรยากาศ และความรู้สึกที่ออกมาจะเหมือนกับอาคารสำนักงาน ทั้งที่จริงแล้วถ้าพิจารณากันตามประโยชน์ใช้สอย ม่านปรับแสงนั้นจะให้ประโยชน์กว่าผ้าม่านเสียอีก
การจะตัดสินใจเลือกใช้ม่านแบบใดแบบหนึ่งนั้นก็คงจะต้องมาพิจารณากันที่ประโยชน์ใช้สอยก่อน รวมทั้งงานตกแต่งเป็นประการสำคัญเพื่อการตัดสินใจ เช่น ถ้างานตกแต่งเป็นลักษณะของงานสไตล์ยุคใดยุคหนึ่งก็จำเป็นอยู่เองที่ต้องเลือกใช้ม่านผ้า เพราะจะเข้ากันได้กับงานตกแต่งดีกว่าการใช้ม่านปรับแสง แต่ถ้าเป็นงานตกแต่งแบบสมัยใหม่ที่สามารถเลือกใช้ม่านได้ทั้งสองชนิดก็คงต้องมาพิจารณากันที่ประโยชน์ใช้สอยว่าต้องการติดม่านเพื่อจุดประสงค์อะไรถ้าเป็นม่านที่ใช้กันแดดเข้าสู่อาคารก็น่าจะเลือกใช้ม่านปรับแสงมากกว่าการใช้ผ้าม่าน เพราะม่านปรับแสงสามารถเลือกปรับมุมเพื่อกันแดดได้ โดยยังคงมองเห็นภายนอก และอีกประการหนึ่ง ถ้าเลือกใช้ใบม่านชนิดที่สามารถสะท้อนรังสีความร้อนได้ดี ก็จะช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้อีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : OK Nation